วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2562

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4

วันพฤหัสบดี ที่ 29 สิงหาคม 2562


💬 สิ่งที่ได้เรียนรู้





บทที่ 3 การสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย



🍎 คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ
One-Way Communication  →   การสื่อสารทางเดียว
Two-way Communication  →  การสื่อสารสองทาง 
Verbal Communication  →  การสื่อสารเชิงวัจนะภาษา
Non-Verbal Communication  →  การสื่อสารเชิงอวัจนะภาษา
personal Communication  →   การสื่อสารส่วนบุคคล 
Intrapersonal Communication    การสื่อสารระหว่างบุคคล 
Mass Communication    การสื่อสารมวลชน 
Channel  →  ช่องทางการส่งสาร 
Clarity of audience  →    ความสามารถของผู้รับสาร 
Clearly    ความชัดเจน 

💗 ความหมายของการสื่อสาร
        ➤ การสื่อสาร  (Communication) คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จาก   ผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสาร มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ 
        ➤ การติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความคิด ทัศนคติ ทักษะ และประสบการณ์ระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารให้มีความเข้าใจ ที่ตรงกันเพื่อนำไปสู่การดำรงชีวิตที่มีความสุข

💬 ความสำคัญของการสื่อสาร
1. ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม 
2. ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
3. ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
4. ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
5. ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต

💥 รูปแบบของการสื่อสาร
- รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล (Aristotle’s Model of Communication)
- รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล (Lasswell’s Model of Communication)
- รูปแบบการสื่อสารของแชนนอนและวีเวอร์ (Shannon & Weaver’s Model of Communication)
- รูปแบบการสื่อสารของออสกูดและชแรมม์ (C.E Osgood and Willbur Schramm’s )
- รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล (Berlo’s Model of Communication) 

💓 องค์ประกอบของการสื่อสาร
1. ผู้ส่งข่าวสาร (Sender)
2. ข้อมูลข่าวสาร (Message)
3. สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media)
4. ผู้รับข่าวสาร (Receivers)
5. ความเข้าใจและการตอบสนอง

ผู้ส่งสารและผู้รับสาร
⏩ ผู้จัดกับผู้ชม
⏩ ผู้พูดกับผู้ฟัง
⏩ ผู้ถามกับผู้ตอบ
⏩ คนแสดงกับคนดู
⏩ นักเขียนกับนักอ่าน
⏩ ผู้อ่านข่าวกับคนฟังข่าว
⏩ คนเล่านิทานกับคนฟังนิทาน

👉 สื่อ
         ใช้วิธีพูด-เขียน หรือการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้รูปภาพ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ โดยวิธีการติดต่อนั้นต้องใช้ตัวกลางต่างๆ เช่น คลื่นเสียง ตัวหนังสือ แผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือเขียน  คลื่นวิทยุโทรทัศน์  ตัวกลางเหล่านี้เรียกว่า สื่อ โดยการสื่อสารนั้นสามารถใช้สื่อหลายๆอย่างได้พร้อมๆกัน เช่น การเรียน การสอน ต้องใช้ทั้งหนังสือ กระดาน ภาพ

👉 สาร
        คือ เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น  ข้อเท็จจริง  ข้อแนะนำ  การล้อเลียน  ความปรารถนาดี  ความห่วงใย  มนุษย์จะแสดงออกมาให้เป็นที่รับรู้ได้ การสื่อสารจะเกิดขึ้นตามกาลเทศะ  และสภาพแวดล้อมต่างๆในสังคม

🌼 วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร
1. เพื่อแจ้งให้ทราบ หมายถึง การสื่อสารที่ผู้ส่งสารจะแจ้ง หรือบอกกล่าวข่าวสาร ข้อมูล เหตุการณ์ ความคิด ความต้องการของตนให้ผู้รับได้ทราบ
2. เพื่อสอนหรือให้การศึกษา หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งจะให้ผู้รับมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางด้านองค์ความรู้ ความคิด สติปัญญา ฉะนั้นจึงมุ่งเน้นไปที่การเรียนการสอนหรือการศึกษาค้นคว้าทางวิชาการโดยเฉพาะ
3. เพื่อสร้างความพอใจหรือให้ความบันเทิง หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งให้เกิดผลทางจิตใจหรืออารมณ์ ความรู้สึกแก่ผู้รับสาร ซึ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ส่งสารมีข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้รับสาร และมีกลวิธีในการนำเสนอเป็นที่พอใจ
4. เพื่อเสนอหรือชักจูงใจ มุ่งเน้นให้ผู้รับสารมีพฤติกรรมคล้อยตาม หรือยอมรับปฏิบัติตาม

🌵 ประเภทของการสื่อสาร
1. จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร
2. จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก
3. จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร

🌺 การสื่อสารกับตนเอง
- การสื่อสารที่บุคคลเดียวเป็นทั้งผู้ส่งสารและรับสาร
- การคิดหาเหตุผลโต้แย้งกับตนเองในใจ
- เนื้อหาไม่มีขอบเขตุจำกัด
- บางครั้งมีเสียงพึมพำดังออกมาบ้าง
- บางครั้งเกิดความขัดแย้งในใจและไม่อาจตัดสินใจได้
- อาจเป็นการปลอบใจตนเอง การเตือนตนเอง การวางแผน หรือแก้ปัญหาใดๆ

🌻 การสื่อสารระหว่างบุคคล
- บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ไม่ถึงกับเป็นกลุ่ม
- เป็นเรื่องเฉพาะระหว่างบุคคล อาจไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
- อาจเป็นความลับระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารเท่านั้น
- สารที่สื่ออาจเปิดเผยหากมีประโยชน์ต่อบุคคลอื่น

😄 การสื่อสารสาธารณะ
- มีเป้าหมายจะส่งสารสู่สาธารณชน
- มีเนื้อหาที่อาจให้ความรู้และเป็นประโยชน์ ให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
- เป็นความคิดที่มีคุณค่าและเปิดเผยได้โดยไม่จำกัดเวลา
เช่น การบรรยาย การปาฐกถา  การอมรม การสอนในชั้นเรียน

😘 การสื่อสารมวลชน
- ลักษณะสำคัญคล้ายการสื่อสารสาธารณะ
- ต้องอาศัยสื่อที่มีอำนาจการกระจายสูง รวดเร็ว กว้างขวาง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ดาวเทียมและสื่อมวลชน
- ต้องคัดเลือกเฉพาะข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็นที่เห็นว่าควรนำเสนอ
- อาจสนองความต้องการและความจำเป็นของมวลชนมากหรือน้อยได้

😊 การสื่อสารในครอบครัว
- เป็นการสื่อสารขั้นพื้นฐานของมนุษย์
- ประสิทธิภาพของการสื่อสารขึ้นอยู่กับความตั้งใจดีของสมาชิกในครอบครัว
- คุณธรรมที่ดีงามในครอบครัวจะช่วยพัฒนาการสื่อสารไปในทางดีงามเสมอ
- ต้องยอมรับและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
- คนต่างรุ่นต่างวัยในครอบครัวต้องพยายามทำความเข้าใจให้ตรงกัน
- ควรคำนึงถึงมารยาทที่ดีงามอยู่เสมอ

🌸 อุปสรรคที่สำคัญของการสื่อสาร
- ผู้ส่งข่าวสารขาดทักษะในการสื่อสารที่ดี เช่นใช้ภาษาที่อยากแก่การเข้าใจ หรือไม่เหมาะแก่ผู้รับ
- ข้อมูลข่าวสารมากเกินไป
- ได้ข่าวสารไม่ครบสมบูรณ์ ทำให้สื่อความหมายผิดๆ
- ข้อมูลที่ส่งไปผ่านหลายขั้นตอน
- เลือกใช้เครื่องมือในการส่งข่าวสารไม่เหมาะสม
- รีบเร่งด่วนสรุปข่าวสารเร็วเกินไป ขาดการไตร่ตรอง
- ผู้รับข่าวสารไม่ทบทวน หรือสอบถามให้เข้าใจเมื่อสงสัย
- อารมณ์ของผู้รับ หรือผู้ส่งอยู่ในสภาพไม่ปกติ
- ผู้ส่งหรือผู้รับมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น

🌼 คุณธรรมที่สำคัญในการสื่อสาร
- ความมีสัจจะและไม่ล่วงละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน
- ความรัก ความเคารพและความปรารถนาดีต่อกัน
- ความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนพูดหรือกระทำ
- เป็นพฤติกรรมด้านนอกของการสื่อสาร หมายถึงพฤติกรรมที่ปรากฏให้เห็นชัดเจน เช่นกิริยาอาการ  การเปล่งเสียงออกมาเป็นถ้อยคำ  การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรรวมทั้ง รูปภาพ แผนภูมิและการใช้วัตถุต่างๆ
- เป็นกิริยาวาจาที่เรียบร้อยถูกต้องตามคตินิยมของสังคม

🍅 วิธีการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง
- ศึกษาและพยายามทำตนให้เข้าใจกับผู้ปกครอง
- พยายามเรียนรู้ความต้องการของเขา และหาแนวทางตอบสนองตามความเหมาะสม
- พูดคุย พบปะกับผู้ปกครองในโอกาสต่างๆ
- หาโอกาสไปร่วมงานพิธีทางศาสนา เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครอง
- ทำตนให้กลมกลืนกับผู้ปกครอง
- มีท่าทีเป็นมิตรอยู่เสมอ
- เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองร่วมกิจกรรม

🌼 สรุป
        การสื่อสารที่ดีและมีประสิทธิภาพนับเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้งานการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จ ผู้ที่เป็นครูจะต้องทำความเข้าใจเรื่องการสื่อสารให้กระจ่างชัดเจน ประกอบกับการศึกษาธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครอง พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อที่จะได้ทำการให้ความรู้ให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองได้ดีมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความศรัทธา เชื่อมั่นและมีความอบอุ่นว่าสถานศึกษาจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง บ้านโรงเรียน ชุมชนและสังคมเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเด็กร่วมกัน

คำถามท้ายบท

1. จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
👉     ➤ การสื่อสาร   คือ  กระบวนการส่งข่าวสารหรือข้อมูล จากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา
         ➤ ความสำคัญของการสื่อสาร     เป็นการทำให้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม เกิดความเข้าใจตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งทำให้เกิดมิตรภาพที่อบอุ่นทั้งทางกายและใจ

2. การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
👉       2.1 เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความเข้าใจตรงกันในเรื่องต่างๆอย่างสมานฉันท์
           2.2  เพื่อชักจูงใจให้ผู้ปกครองเกิดความร่วมมือในการปฏิบัติตนทีดี
           2.3  เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีและรักษามิตรภาพที่ดีระหว่างผู้ปกครองกับคุณครู

3. รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
👉 รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล    ได้แก่    ผู้พูด ⏩ คำพูด ⏩ ผู้ฟัง
เพราะเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเหมาะสมในสื่อสารระหว่างผู้ปกครองและคุณครู ในการพูดคุยปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับตัวเด็ก  เช่น   การปรึกษาการไม่รับประทานอาหารของเด็ก   การส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในการเรียน

4. ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
👉       4.1 เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาการเด็ก
           4.2 เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีสมานฉันท์
           4.3 มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
           4.4 เรียนรู้ได้ดีจาการฝึกปฏิบัติ
           4.5 เรียนรู้ได้ดีในบรรยายกาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
           4.6 ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน
           4.7 เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย

5. ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
👉        5.1 ความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้
            5.2 ความต้องการ  เช่น ต้องการให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง  มีการศึกษาที่ดี
            5.3 อารมณ์และการปรับตัว    เช่น  ดีใจ  พอใจ   โกรธ  เสียใจ
            5.4 การจูงใจ    เช่น  ต้องการรู้เพื่อพัฒนาลูก  ต้องการรู้เพื่อให้ลูกเป็นคนดี
            5.5 การเสริมแรง  เช่น  คำชมเชย  รางวัล ให้ลูกมีกำลังใจ
            5.6 ทัศนคติและความสนใจ  เช่น  จัดสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ทำให้ผู้ปกครองพอใจและสนุกกับการเรียนรู้
            5.7 ความถนัด   ความสามารถในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

👉 ประเมินตนเอง

              : เข้าเรียนตรงเวลาค่ะ ตั้งใจฟังอาจารย์และจดบันทึกตาม มีคุยกับเพื่อนเล็กน้อยค่ะ


👉 ประเมินเพื่อน

              : เพื่อนๆเข้าเรียนตรงเวลาค่ะ คุยกันบ้าง แต่ก็ฟังที่อาจารย์อธิบายเนื้อหาและตอบคำถามอาจารย์ค่ะ

👉 ประเมินอาจารย์

              อาจารย์บาสเข้าสอนตรงเวลาค่ะ เตรียมเนื้อหาการสอนมาดีและได้โพสต์เนื้อหาที่จะเรียนให้กับนักศึกษาไว้ศึกษาก่อนเข้าเรียนด้วยค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น